แผนการของพระเจ้าสำหรับชีวิตคุณตัวอย่าง

แผนการของพระเจ้าสำหรับชีวิตคุณเป็นเรื่องของคุณเป็นใครมากกว่าคุณทำอะไร

ฉันควรทำยังไงดี? 

คุณอาจถามคำถามนี้มากแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณต้องเจอกับการตัดสินใจครั้งสำคัญ อย่างเช่น ควรเข้ามหาวิทยาลัยไหน หรือควรเลือกอาชีพไหนดี 

นี่เป็นคำถามแบบเดียวกับที่พวกผู้นำทางศาสนาถามพระเยซูในพระคัมภีร์: “ในธรรมบัญญัตินั้น พระบัญญัติข้อไหนสำคัญที่สุด?” (มัทธิว 22:36) พูดอีกอย่างก็คือ: ฉันควรทำยังไงดี?

ในข้อพระคำถัดมา เราได้เห็นคำตอบของพระเยซู: “’จงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าของท่านด้วยสุดใจของท่านด้วยสุดจิตของท่าน และด้วยสุดความคิดของท่าน’ นั่นแหละเป็นพระบัญญัติข้อสำคัญ อันดับแรก ข้อที่สอง ก็เหมือนกันคือ: ‘จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง’” (มัทธิว 22:37-39 เพิ่มการเน้น)

เมื่อเราเข้าใจแล้วว่า แผนการของพระเจ้ามีไว้เพื่อชีวิตของเรา เราสามารถเริ่มทำสองสิ่งที่พระเยซูบอกให้เราทำได้:

1.) รักพระเจ้า

2.) รักคนอื่น ๆ

คุณอาจคิดว่าก็ฟังดูดีอยู่หรอกนะ แต่ฉันจะรู้ได้ยังไงว่า ต้องเลือกเข้ามหาวิทยาลัยไหนหรืออาชีพไหนดี? 

นั่นเป็นคำถามที่เข้าท่า ข่าวดีก็คือ: ถ้าคุณติดตามพระเยซูและอยู่ท่ามกลางคนที่รักพระเจ้า พระวิญญาณบริสุทธิ์จะช่วยนำคุณในการตัดสินใจ 

คุณอาจตัดสินใจไม่ได้ระหว่างมหาวิทยาลัยสองแห่งซึ่งดีพอ ๆ กัน และคุณสงสัยว่า ที่ไหนเป็นที่ซึ่งพระเจ้าอยากให้คุณเลือก กลับไปที่สิ่งที่พระเยซูตรัสก่อนหน้านี้ว่าเป็นพระบัญญัติสองข้อใหญ่: รักพระเจ้าและรักคนอื่น ๆ คุณสามารถรักพระเจ้าและรักคนอื่น ๆ ที่ทั้งสองมหาวิทยาลัยได้ไหม? ถ้าคำตอบคือ ได้ ก็ไม่สำคัญว่าคุณเลือกมหาวิทยาลัยไหน พระเจ้าสามารถใช้คุณได้ไม่ว่าอยู่ที่ใดก็ตาม

เมื่อเป็นการตัดสินใจในเรื่องอนาคตของเรา พระเจ้าไม่ได้ให้คำตอบเราแบบ “ได้” หรือ “ไม่ได้” เสมอไป อาจดูสับสนซักหน่อย แต่ก็มีเสรีภาพมากมายเมื่อคุณตระหนักได้แผนการของพระเจ้าสำหรับชีวิตของคุณเป็นเรื่องของคุณจะกลายเป็นใครมากกว่าคุณจะทำอะไร 

นี่หมายความเราก็แค่ตัดสินใจเอาเอง และดำเนินชีวิตตามใจชอบงั้นเหรอ? ไม่ใช่อย่างงั้นแน่! เราอาจไม่รู้น้ำพระทัยพระเจ้าเสมอไป แต่เราสามารถเดินในทางของพระเจ้าได้เสมอ นี่หมายความว่ายังไง? หมายความว่าแม้ว่าเราจะไม่รุ้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิต เรายังคงเชื่อฟังสิ่งที่พระเจ้าทรงเรียกเราให้ทำ ในตอนนี้ นั่นหมายถึงการติดตามพระองค์ ดำเนินชีวิตด้วยความสัตย์สุจริต เชื่อฟังและเคารพผู้ปกครองและผู้นำของเรา และรักทุกคนที่พระเจ้าทรงใส่ไว้ในชีวิตเรา 

และนี่คือส่วนที่ดีที่สุด: เมื่อเราติดตามพระคริสต์ พระองค์ประทานปัญญาให้แก่เราผ่านทางองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ (1 โครินธ์ 2:12-13) พระองค์ทรงเปลี่ยนแปลงความคิดของเราใหม่ (โรม 12:2) และช่วยเราให้จดจ่ออยู่กับสิ่งที่ถูกต้อง เมื่อเราอยู่ท่ามกลางคนที่มีปัญญา (สุภาษิต 13:20) พวกเขาจะช่วยเราให้ตัดสินใจได้ถูกต้องด้วยเช่นกัน และหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่เราสามารถพบปัญญาได้คือผ่านทางการอธิษฐาน ที่จริง ในยากอบ 1:5 บอกว่า ถ้าเราทูลขอสติปัญญาจากพระเจ้า พระองค์จะประทานให้แก่เรา!