คริสต์มาสนี้ อย่าก้มหน้าสิ้นหวัง ให้เงยหน้ามองไปที่เบื้องบนตัวอย่าง

เมื่อเรามองไปที่เบื้องบน ทุกสิ่งจะเริ่มดีขึ้น

เราอาจเคยได้ยินสำนวนภาษาอังกฤษ “ทุกสิ่งกำลังแหงนมองไปข้างบน!”

แต่สำนวนนี้หมายถึงอะไรกันนะ?

สำนวนนี้หมายถึงทุกอย่างกำลังดีขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาของคุณเริ่มลดลง และโอกาสของคุณกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

คริสต์มาสปีนี้ ผมอยากให้คุณจดจำความจริงข้อหนึ่ง: ทุกสิ่งจะเริ่มดีขึ้น เมื่อคุณมองไปที่เบื้องบน

หรือหากจะพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ สถานการณ์ของคุณจะเริ่มคลี่คลายเมื่อคุณหยุดเพ่งดูปัญหา และเริ่มมองไปที่แทน พระเจ้าแทน

ในพระคัมภีร์ เราจะพบประโยคนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก: “จงเงยตาของพวกท่านขึ้น” ซึ่งเป็นการพูดว่า “จงเงยหน้าขึ้น ละสายตาจากตัวเองแล้วมองมาที่พระเจ้า”

พระเจ้าตรัสเช่นนนี้กับโมเสส พระองต์ตรัสกับอับราฮัม พระเยซูตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์

มีกวีเก่าแก่หนึ่งพูดไว้ว่า “ชายสองคนมองออกมาจากกรงของเรือนจำ ชายคนหนึ่งมองเห็นแต่โคลนตม แต่อีกคนชื่นชมเหล่าหมู่ดาว” พูดอีกอย่างหนึ่ง นักโทษคนหนึ่งมองลงมาด้วยความสิ้นหวัง แต่อีกคนมองขึ้นไปด้วยความหวัง

คุณเองก็มีทางเลือกเช่นนั้นเหมือนกัน ซึ่งผมหวังว่าคุณจะเลือกที่จะมองเห็นดวงดาว พระเจ้าทรงสร้างดาวทุกดวงและดาวเหล่านั้นส่องแสงในวันที่พระเยซูประสูติเมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว กษตริย์ดาวิดเขียนถ้อยคำเหล่านี้ เมื่อพระองค์มองเห็นหมู่ดาวเดียวกัน 1,000 ปีก่อนหน้านั้น:

“เมื่อข้าพระองค์มองดูฟ้าสวรรค์อันเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์—
ดวงจันทร์และดวงดาวซึ่งพระองค์ได้ทรงสถาปนาไว้—มนุษย์เป็นผู้ใดเล่า ที่พระองค์ทรงระลึกถึงเขา?
และบุตรของมนุษย์เป็นใครเล่า ที่พระองค์ทรงห่วงใยเขา? . . . โอ้ ข้าแต่พระยาห์เวห์ องค์เจ้านายของข้าพระองค์ทั้งหลาย
พระนามของพระองค์สูงส่งยิ่งนักทั่วทั้งแผ่นดินโลก!” (สดุดี 8:3-4, 9)

เมื่อเราเงยหน้าและเห็นว่าพระเจ้ายิ่งใหญ่เพียงใด มันช่วยให้ปัญหาเราดูเล็กลง ปัญหาจะไม่ดูยิ่งใหญ่หรือท่วมท้นเมื่อเราเปรียบเทียบกับความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า

พูดคุยกัน

• ยามที่เราเผชิญกับปัญหา ทำไมเราจึงโฟกัสที่ปัญหาได้ง่ายกว่าที่จะโฟกัสที่พระเจ้า?


• เมื่อเรามองดูที่ความกว้างใหญ่ของสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างทำให้คณมองปัญหาของคุณเล็กลงอย่างไร?


• คุณจะทำสิ่งใดในสัปดาห์นี้เพื่อชื่นชมความงามของสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างและละสายตาจากปัญหาของคุณ?

คุณวางใจในพระเยซูเรื่องความรอดของคุณไหม?

พระคัมภีร์บอกกับเราว่า เราจะไปสู่สวรรค์ได้เมื่อเราเชื่อวางใจพระเจ้า ผ่านพระเยซู พระบุตรของพระองค์ และเราไม่ต้องทำตัวให้พระเจ้ารัก หรือบากบั่นทำงานเพื่อจะไปให้ถึงสวรรค์ เอเฟซัส 2:8-9 กล่าวว่า “เพราะว่า ท่านทั้งหลายได้รับความรอดแล้วด้วยพระคุณโดยทางความเชื่อ ความรอดนี้ไม่ใช่มาจากตัวท่าน แต่เป็นของประทานจากพระเจ้า—ไม่ใช่มาจากการกระทำ เพื่อไม่ให้ใครอวดได้” (THSV11)

ถ้าคุณยังไม่เชื่อวางใจในพระเยซูและยังไม่ได้ติดตามพระองค์ จะรอช้าไปอีกทำไม? หรือถ้าคุณได้ก้าวข้ามเส้นนั้นมาแล้วและได้ตัดสินใจที่จะเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์ ให้อธิษฐานดังนี้:

“พระเยซูที่รักยิ่ง พระองค์สัญญาว่า หากลูกเชื่อในพระองค์ ทักอย่างที่ลูกเคยทำผิดไปจะได้รับการให้อภัย ลูกจะได้เรียนรู้ว่า วัตถุประสงค์ในชีวิตของลูกคืออะไร และวันหนึ่งพระองค์จะรับลูกไปยังบ้านนิรันดรในสวรรค์”

“ลูกสารภาพความผิดบาปและเชื่อว่าพระองค์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด พระองค์สัญญาว่าหากลูกสารภาพบาปและเชื่อวางใจในพระองค์ ลูกจะได้รับความรอด ลูกเชื่อตามพระองค์บอกว่าความรอดนี้ได้มาโดยพระคุณ ผ่านทางความเชื่อ ไม่เกี่ยวกับการกระทำของตัวลูกเอง ลูกขอต้อนรับพระองค์เข้ามาในชีวิตให้เป็นพระเจ้า วันนี้ ลูกขอยกทุกส่วนของชีวิตให้พระองค์ปกครอง พระองค์มีสิทธิ์จัดการกับทุกอย่างในชีวิตลูก”

“พระเยซู ลูกต้องการพักสงบในความรักของพระองค์ ลูกขอบคุณที่ลูกไม่ต้องทำสิ่งใดเพื่อให้ได้ความรักนี้มา ลูกอยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่รับใช้พระองค์ แทนที่จะรับใช้ความต้องการของตัวเอง ลูกขอถ่อมใจมอบชีวิตของลูกให้กับพระองค์และขอให้พระองค์ช่วยไถ่ลูกและรับลูกเข้าไปอยู่ในครอบครัวของพระองค์ อธิษฐานในพระนามพระเยซู อาเมน ”

หากคุณเพิ่งอธิษฐานต้อนรับพระเยซู อีเมลมาหาผมได้ที่ Rick@PastorRick.com ผมต้องการส่งเนื้อหาต่างๆ เพื่อช่วยคุณเดินไปกับพระเยซู โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ